ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาจะทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง
สารบัญ
การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาจะทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง
ส่วนประกอบของหน้ากากอนามัยที่เป็นสาเหตุทำให้แพ้ มีอะไรบ้าง
ทริคง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ใส่ “หน้ากากอนามัย ” อย่างไร ไม่ทำให้ผิวเสีย ไม่ทำให้เกิดสิว
เกิดความอับชื้น ที่เกิดจากเหงื่อ และละอองจากการไอจาม ความชื้นของเหงื่อ และละอองที่กระจายอยู่ในหน้ากากอนามัย ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในบริมาณที่มากกว่าปกติเป็นสาเหตุทำให้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราโตขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบ และกลับมาทำร้ายผิวหน้าของเราได้
เกิดการเสียดสี หากหน้ากากอนามัย ที่ใส่มีขนาดไม่พอดีกับใบหน้า และมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เวลาที่ขยับใบหน้าบ่อยๆ ตัวหน้ากากอนามัย ก็จะมีการเสียดสีถูไถไปกับใบหน้าของเราทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคืองและอักเสบ
เกิดรอยกดทับบนใบหน้า ในกรณีที่หน้ากากอนามัยมีขนาดเล็กเกินไป ช่วงบริเวณที่ขอบและสายคล้องก็จะรัดแน่น เมื่อใส่เป็นเวลานานๆ จะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้
เกิดผื่นแพ้ จากความอับชื้นของเหงื่อ และการเสียดสีจากหน้ากากอนามัย ที่ใส่ ทำให้ผิวมีผื่นแดงและอาจมีอาการคันเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอาการของผิวแพ้ง่ายร่วมด้วย
ส่วนประกอบของหน้ากากอนามัยที่เป็นสาเหตุทำให้แพ้ มีอะไรบ้าง
- แผ่นผ้า (Nonwoven Fabric) มักทำให้เกิดผื่นบริเวณดั้งจมูกและแก้ม ผื่นจะพอดีกับพื้นที่ใต้หน้ากากอนามัย และจะชัดบริเวณผิวสัมผัสกับหน้ากากอนามัย เช่น ดั้งจมูก แผ่นแก้ม ลักษณะผื่นส่วนใหญ่จะเป็นปื้นแดงๆ แต่บางครั้งอาจจะ บวมนูนแบบลมพิษได้มีรายงานสงสัยว่าการแพ้ น่าจะเกิดจากสารที่ชื่อ Formaldehyde resins มีหน้าที่ช่วยกันน้ำ กันยับ ให้ความแข็งแรง แต่ปัจจุบันในขบวนการผลิตพยายามลดสารตัวนี้ลงแล้ว
- สายคล้อง ส่วนใหญ่เป็นยาง ผื่นจะคล้ายกับแพ้จากผ้า แต่เกิดบริเวณผิวหนังที่สัมผัสสายคล้อง คือรอบๆหูไม่เป็นที่จมูก มักเกิดจากการแพ้ Elastic (Rubber Allergy)
หากแพ้หน้ากากอนามัย สามารถใส่หน้ากาก ผ้าก่อน แล้วใส่หน้ากากอนามัย ชั้นนอกเพื่อไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรง จะช่วยลดการเกิดผื่นได้
ทริคง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ใส่ “หน้ากากอนามัย ” อย่างไร ไม่ทำให้ผิวเสีย ไม่ทำให้เกิดสิว
การเกิดสิวและการอุดตัน ที่จริงแล้วการใส่หน้ากากอนามัย นั้น เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาสิวขึ้นได้ หลักๆ แล้วสิวที่เกิดจากการใส่Maskนั้น จะเป็นประเภท สิวอุดตัน และสิวผด ทั้งในคนที่ไม่แต่งหน้า และในคนที่แต่งหน้า แต่เครื่องสำอางที่เราใช้แต่งหน้าบวกกับเหงื่อที่อบอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยนั้น จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้นนั่นเองคะ
การวินิจัยแยกโรคมีความสำคัญเพราะโรคผิวหนังที่พบบ่อยบนใบหน้าหลายชนิดมีรอยโรคในตำแหน่งใกล้เคียงกันเช่นสิว, Seborrheic Dermatitis, Rosacea เป็นต้นล้วนมีวิธีการดูแลรักษาจากสาเหตุและการป้องกันที่แตกต่างกันหากไม่แน่ใจสามารถมาปรึกษาแพทย์ทางด้านผิวหนังได้ที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยองศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมความงามกรุงเทพราชาวดี